วิธีหาที่ฝึกงานสำหรับนักศึกษา ช่องทางสมัคร วิธีเตรียมตัว และเทคนิคเพิ่มโอกาสได้ Internship | อัปเดต 2026

ถ้าคุณเป็นนักศึกษาปี 3 หรือ 4 ที่กำลังเริ่มคิดเรื่องหาที่ฝึกงาน บทความนี้เขียนมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ เพราะตอนนี้การฝึกงานไม่ใช่แค่การเก็บหน่วยกิตให้ครบ แต่มันกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าตัวเองอยากทำงานสายไหน เหมาะกับงานแบบไหน และที่สำคัญคือได้สร้าง Portfolio และ Network ที่จะใช้ต่อยอดหางานจริงหลังจบ หลายคนอาจจะคิดว่าการหาที่ฝึกงานมันง่าย แค่เข้าไปกดสมัครในเว็บหางาน หรือรอให้ทางมหาลัยจัดหาให้ แต่ความจริงแล้ว ถ้าคุณอยากได้ที่ฝึกงานที่ดี ที่ได้เรียนรู้อะไรจริงจัง ไม่ใช่แค่ไปถ่ายเอกสารหรือเดินเอกสาร คุณต้องเริ่มเตรียมตัวและวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ

ในบทความนี้ เราจะพาไปดูสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการหา Internship ในไทย ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายว่าคุณอยากฝึกงานแบบไหน ช่องทางต่างๆ ที่คุณสามารถหาที่ฝึกงานได้ วิธีเตรียมตัวให้พร้อม ที่จะช่วยให้คุณวางแผนได้ชัดเจนว่าควรเริ่มทำอะไรเมื่อไหร่

เริ่มกันเลยดีกว่า เพราะยิ่งเริ่มเร็ว โอกาสที่คุณจะได้ที่ฝึกงานที่ใช่ก็จะยิ่งมากขึ้น

ฝึกงานปกติ กับสหกิจศึกษา ต่างกันอย่างไร

Internship ปกติ คือการฝึกงานระยะสั้นที่ส่วนใหญ่จะทำในช่วงปิดเทอม ระยะเวลาประมาณ 1 ถึง 3 เดือน บางมหาลัยนับเป็นหน่วยกิต บางที่เป็นแค่ตัวเลือกเสริมที่ไม่บังคับ รูปแบบนี้ยืดหยุ่นกว่า เหมาะกับนักศึกษาที่อยากลองดูว่าสายงานนี้ตัวเองชอบไหม หรืออยากสร้าง Portfolio เพิ่มในช่วงปิดเทอม คุณจะเจอ Internship แบบนี้มากในสายการตลาด, IT, HR, Media หรือ Startup ต่างๆ

สหกิจศึกษา หรือที่เรียกว่า Cooperative Education ย่อว่า Co-op นั้นเป็นเรื่องจริงจังกว่า เพราะคุณต้องทำงานเต็มเวลาอย่างน้อย 4 ถึง 5 เดือนขึ้นไป และนับเป็นหน่วยกิตหลักในหลักสูตร ระบบสหกิจนี้อิงตามแนวคิด CWIE ที่ให้นักศึกษาสลับระหว่างเรียนที่มหาลัยกับไปทำงานจริงในองค์กร เพื่อสร้างสมรรถนะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน หลายมหาลัยจะมี "ศูนย์สหกิจ" ที่คอยจัดหาบริษัทคู่สัญญา ดูแลนักศึกษา และมีอาจารย์ที่ปรึกษาคอยนิเทศงานด้วย

ความแตกต่างที่สำคัญคือ สหกิจจะมีโครงสร้างชัดเจนกว่า มีการประเมินผลอย่างเป็นทางการ และมักจะได้รับค่าตอบแทนหรือเบี้ยเลี้ยงในอัตราที่กำหนดไว้ ในขณะที่ Internship ปกติอาจจะได้หรือไม่ได้ค่าตอบแทนก็ได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท

กำหนดเป้าหมายการฝึกงาน ก่อนเริ่มหางาน

หลายคนรีบสมัครที่ฝึกงานทันทีโดยไม่ได้คิดให้ดีว่าตัวเองต้องการอะไรจริงๆ ผลก็คือไปฝึกงานแล้วรู้สึกว่าเสียเวลา ไม่ได้อะไรกลับมา หรือแย่กว่านั้นคือต้องลาออกกลางคัน ก่อนจะเริ่มหา ใช้เวลาตอบคำถามพื้นฐานเหล่านี้ให้ชัดก่อน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

เป้าหมายหลักของการฝึกงานคืออะไร

คุณอยากได้อะไรจากการฝึกงานกันแน่ บางคนอาจจะแค่อยากเก็บหน่วยกิตให้จบ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณตั้งเป้าหมายให้ชัดกว่านั้น จะช่วยให้เลือกที่ฝึกงานได้ตรงจุดมากขึ้น

• เพื่อลองสายงาน ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าอยากทำงานสายไหน การฝึกงานเป็นโอกาสดีที่จะได้ลองดูบรรยากาศการทำงานจริง ว่าชอบหรือเปล่า

• เพื่อสร้าง Portfolio สายงาน Creative, Tech, Data หรือ Product Design การมี Portfolio ที่แสดงผลงานจริงสำคัญมาก การฝึกงานจะช่วยให้คุณมีเคสจริงๆ มาโชว์ได้

• เพื่อสร้าง Network บางอุตสาหกรรมเน้นเรื่อง Connection มาก การรู้จักคนในวงการตั้งแต่ยังเรียนจะเป็นประโยชน์มากเวลาหางานจริง

• เพื่อปูทางให้ได้งานหลังเรียนจบ หลายบริษัทมีนโยบาย Intern to Full-time ถ้าคุณทำงานได้ดี โอกาสได้รับข้อเสนองานหลังจบสูงมาก

เลือกประเภทองค์กรที่อยากไป

ประเภทองค์กรต่างกัน ประสบการณ์ที่ได้ก็ต่างกัน เลือกให้เหมาะกับสไตล์ตัวเอง

• บริษัทใหญ่ โครงสร้างชัดเจน มีโครงการฝึกงานเป็นทางการ ได้เรียนรู้ระบบการทำงานแบบมืออาชีพ แต่การแข่งขันสูง และบางทีงานที่ได้ทำอาจจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของโปรเจกต์ใหญ่

• SME หรือ Agency งานหลากหลาย ได้ลงมือทำจริงเยอะ เรียนรู้ได้เร็ว แต่ระบบอาจจะไม่เป็นทางการเท่า และอาจจะต้องทำหลายอย่างพร้อมกัน

• Startup หรือ Tech Firm ได้ทำหลายบทบาท มีส่วนร่วมในโปรเจกต์จริงๆ วัฒนธรรมองค์กรยืดหยุ่นและเคลื่อนไหวเร็ว เหมาะกับคนที่ชอบความท้าทายและไม่กลัวความไม่แน่นอน

• องค์กรระหว่างประเทศ, NGO หรือ UN ได้ใช้ภาษาอังกฤษเต็มที่ กระบวนการสมัครเป็นระบบชัดเจน เหมาะกับคนที่มองหาประสบการณ์ระดับสากล

คุณเหมาะกับการฝึกงานที่บริษัทแบบไหนดี

เมื่อคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้แล้วไปดูกันต่อว่าจะสามารถหางานจากช่องทางไหนได้บ้างเพื่อตอบโจทย์การฝึกงาน

4 ช่องทางการหา Internship

เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองต้องการอะไร ขั้นตอนต่อไปคือเริ่มหาที่ฝึกงาน แต่หลายคนมักจะรู้จักแค่ไม่กี่ช่องทาง แล้วก็สมัครไปแบบลุ้นโชค ความจริงแล้วมีช่องทางให้เลือกเยอะมาก และถ้าคุณใช้หลายช่องทางพร้อมกัน โอกาสได้ที่ดีก็จะสูงขึ้น

ช่องทางจากมหาวิทยาลัย

ช่องทางแรกที่หลายคนมองข้ามคือทรัพยากรจากมหาลัยของตัวเอง ซึ่งจริงๆ แล้วมีประโยชน์มากกว่าที่คิด

1. ศูนย์สหกิจหรือ Career Center เป็นจุดเริ่มที่ดี เพราะมีฐานข้อมูลบริษัทคู่สัญญาที่เปิดรับนักศึกษาฝึกงานอยู่แล้ว หลายมหาลัยจะมีเว็บไซต์หรือระบบที่โพสต์ประกาศรับฝึกงานไว้ให้เลือก บางที่จัดหาให้เป็นหลักเลย โดยนักศึกษาแค่เลือกจาก list แล้วศูนย์จะเป็นคนติดต่อบริษัทให้ ข้อดีคือบริษัทเหล่านี้มักจะมีประสบการณ์รับนักศึกษามาแล้ว รู้ว่าต้องดูแลยังไง และมีอาจารย์ที่ปรึกษาคอยติดตามด้วย

   
   

2. งาน Job Fair หรือ Internship Fair ของมหาลัยก็เป็นอีกช่องทางที่ดีมาก เช่น งาน CPCU Job Fair, งาน Job Fair ของจุฬา มหิดล หรือ PSU ที่มีบริษัทหลายสิบแห่งมาเปิดบูธรับสมัครพร้อมกัน คุณจะได้คุยกับ HR โดยตรง ยื่น Resume ด้วยตัวเอง และอาจจะได้นัดสัมภาษณ์ทันทีเลย งานแบบนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ยังไม่มี Connection และอยากเห็นหลายบริษัทในวันเดียว

   
   

3. อาจารย์ประจำสาขา ก็เป็นคนที่สำคัญมาก หลายสาขามี MOU กับบริษัทเอาไว้ และให้นักศึกษายื่นผ่านอาจารย์ อาจารย์มักจะรู้ว่าบริษัทไหนรับนักศึกษาดี งานตรงสาย และมี feedback จากรุ่นพี่ที่ไปฝึกงานมาแล้วว่าเป็นอย่างไร ลองเข้าไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาหรืออาจารย์ในสาขา บางทีอาจารย์จะแนะนำบริษัทที่ไม่ได้ประกาศรับเปิดเผยด้วย

   
   

4. รุ่นพี่ศิษย์เก่า เป็นอีกช่องทางที่ไม่ควรมองข้าม เพราะรุ่นพี่เคยผ่านทั้งขั้นตอนสมัครและบรรยากาศการทำงานจริงมาแล้ว พวกเขาจะบอกได้ว่าบริษัทไหนดี ไหนไม่ดี ต้องเตรียมตัวยังไง ลองหาช่องทางติดต่อผ่านกลุ่ม LINE รุ่น, Facebook group ภาควิชา, LinkedIn หรือแม้แต่เดินไปถามในคณะโดยตรงก็ได้

ช่องทางออนไลน์และ Job Boards

ช่องทางออนไลน์คือที่ที่คนส่วนใหญ่เริ่มหากัน และก็มีให้เลือกเยอะจริงๆ

1. เว็บหางานใหญ่ ๆ อย่าง JobsDB, JobThai, JobTopGun หรือ LinkedIn Jobs ล้วนมี filter สำหรับ "นักศึกษาฝึกงาน"โดยเฉพาะ JobsDB ตอนนี้มีประกาศรับ Internship หลายร้อยตำแหน่งทั่วประเทศ ครอบคลุมหลายสายงาน ลองใช้ keyword แบบเฉพาะเจาะจง เช่น "marketing internship", "data intern" หรือ "software engineer intern" แล้วเปิด filter "Student / Internship / Part-time" ด้วย อย่าลืมเซ็ต Job Alert ให้ระบบส่งอีเมลแจ้งเตือนเมื่อมีงานใหม่ตรงกับที่คุณสนใจ

   
   

2. เว็บเฉพาะทางสำหรับนักศึกษา อย่าง เด็กฝึกงาน.com ก็น่าสนใจมาก เพราะโฟกัสเฉพาะงานฝึกงานและพาร์ตไทม์สำหรับนักศึกษา อัปเดตตำแหน่งใหม่ทุกวัน ครอบคลุมทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด หรือเว็บอย่าง internth.com ที่มีทั้งเว็บไซต์และกลุ่ม Facebook รวมงานฝึกงานให้เลือกเยอะ

   
   

3. เว็บไซต์บริษัทโดยตรง ก็เป็นอีกช่องทางที่ดี โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ที่มักจะมีหน้า "Careers" หรือ "Internship Program" บนเว็บไซต์ตัวเอง ข้อดีคือคุณจะได้เห็นรายละเอียดโปรแกรมฝึกงานแบบเต็มๆ ทั้งคุณสมบัติที่ต้องการ สวัสดิการ และขั้นตอนการสมัครอย่างชัดเจน ถ้าคุณมีบริษัทในฝันอยู่แล้ว ลองเข้าไปเช็คเว็บไซต์ของเขาเป็นประจำ

   
   

Social Media และ Community

ยุคนี้ Social Media กลายเป็นช่องทางสำคัญในการหางาน รวมถึงงานฝึกงานด้วย

1. กลุ่ม Facebook มีเยอะมากที่โฟกัสเรื่องหางานฝึกงาน เช่น กลุ่ม "หางาน/นักศึกษาหาที่ฝึกงาน และองค์กรหาคนทำงาน", "Internship in Bangkok", "หางาน เด็กฝึกงาน BY JobFinFin" หรือ "กลุ่มหางาน นักเรียน นักศึกษา เด็กจบใหม่" ในกลุ่มเหล่านี้ HR จะมาโพสต์ประกาศรับตรงๆ และบางครั้งนักศึกษาก็สามารถโพสต์แนะนำตัวพร้อมแนบ Resume หรือ Portfolio ได้เลย

   
   

2. LinkedIn เป็นอีกช่องทางที่กำลังมาแรง ใช้ค้นหาคำว่า "internship" แล้ว filter location เป็น "Thailand" หรือเมืองที่ต้องการ กด Follow บริษัทที่สนใจเพื่อเห็นโพสต์เปิดรับ Intern ใหม่ๆ และอย่าลืมเปิดสถานะ "Open to work" แบบ Internship บนโปรไฟล์ของคุณ เพื่อให้ HR ที่กำลังหาคนเห็นคุณได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญต้องสร้าง Profile ให้น่าสนใจ วิธีเตรียม Profile LinkedIn ก่อนสมัครงาน : https://www.designil.com/5-tips-for-linkedin/

   
   

3. TikTok, IG และเพจคอนเทนต์สายอาชีพ ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น หลายแบรนด์หรือ Agency ประกาศรับฝึกงานผ่าน TikTok หรือ IG Story ของตัวเอง บางทีจะได้เห็นบรรยากาศการทำงานจริงๆ ด้วย มีเพจอย่าง InternSpace ที่คัดสรรข่าวรับนักศึกษาฝึกงานมาลงให้ตามได้สะดวก

หา Internship ด้วยตัวเอง

ช่องทางสุดท้ายคือการ หาด้วยตัวเอง" ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่ามันกล้าเกินไป แต่จริงๆ แล้วมันได้ผลดีกว่าที่คิด โดยเฉพาะกับบริษัทขนาดกลางหรือ Startup ที่อาจจะไม่ได้ประกาศรับอย่างเป็นทางการ

1. โทรหา HR หรือส่งอีเมลตรง ถ้าคุณสนใจบริษัทใดเป็นพิเศษ ลองหาเบอร์หรืออีเมล HR แล้วติดต่อสอบถามขั้นตอนฝึกงานโดยตรง โดยเฉพาะบริษัทในสายโรงงาน อุตสาหกรรม หรือยานยนต์ บางแห่งไม่ได้ลงประกาศเปิดเผย แต่รับเด็กฝึกงานอยู่ การโทรไปถามเองอาจจะเปิดโอกาสที่คนอื่นไม่รู้ก็ได้

   
   

2. Cold Email หรือ LinkedIn Message เขียนง่ายๆ แต่ต้องดูเป็นมืออาชีพ เริ่มจากแนะนำตัวสั้นๆ ชื่อ มหาลัย สาขา ปีที่กำลังเรียน ระบุช่วงเวลาที่ต้องการฝึกงานและรูปแบบ อธิบายว่าทำไมถึงสนใจบริษัทหนี้โดยเฉพาะ อาจจะเชื่อมโยงกับโปรเจกต์หรือผลงานของบริษัทที่คุณติดตาม แนบ Resume และ Portfolio ไปด้วย ปิดท้ายด้วยการขอเวลาพูดคุยสั้นๆ หรือขอรายละเอียดขั้นตอนสมัคร

   
   

3. เสนอโปรเจกต์แลกกับการฝึกงาน อีกวิธีที่ใช้ได้ดีกับสาย Marketing, Data หรือ Product คือการเสนอทำ mini-project ให้บริษัทดูก่อน เช่น วิเคราะห์โซเชียลมีเดีย เสนอปรับ UX หรือทำคอนเทนต์ทดลอง ให้เขาเห็นฝีมือของคุณก่อนตัดสินใจ ถ้าเป็นองค์กรเล็กๆ หรือ Startup มักจะค่อนข้าง open กับไอเดียแบบนี้

   
   

การใช้หลายช่องทางพร้อมกัน ทั้งช่องทางที่มีอยู่แล้วจากมหาลัย ช่องทางออนไลน์ Social Media และการหาด้วยตัวเอง จะช่วยเพิ่มโอกาสของคุณได้เยอะ อย่ามัวแต่นั่งรอให้โอกาสมาหา ลุกขึ้นไปหามันเอง

Tips จาก ผู้เขียน

ผู้เขียน: Panus Sakulsak / Marketing Internship@Hyperwork

สนใจฝึกงานสามารถส่ง Resume มาที่เราได้

Hyperwork คือใคร?

FAQ คำถามที่พบบ่อย

หาบริษัทฝึกงานยังไง มีหลายช่องทางให้เลือก ได้แก่ ศูนย์สหกิจหรือ Career Center ของมหาลัย, เว็บหางานอย่าง JobsDB หรือ เด็กฝึกงาน.com, กลุ่ม Facebook และ LinkedIn, งาน Job Fair ของมหาลัย, หรือติดต่อบริษัทโดยตรงผ่าน Cold Email ควรใช้หลายช่องทางพร้อมกันและเริ่มหาล่วงหน้า 2 ถึง 4 เดือนก่อนช่วงที่ต้องการฝึกงาน

ฝึกงานกี่เดือน ขึ้นอยู่กับรูปแบบ Internship ปกติมักใช้เวลา 1 ถึง 3 เดือน เหมาะกับช่วงปิดเทอม ส่วนสหกิจศึกษาหรือ Cooperative Education จะใช้เวลา 4 ถึง 6 เดือนหรือมากกว่า ซึ่งบางมหาลัยกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 16 ถึง 18 สัปดาห์ ควรเช็คกับภาควิชาหรือศูนย์สหกิจของมหาลัยตัวเองเพื่อความชัดเจน

ฝึกงานได้เงินเดือนไหม ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท บางแห่งให้ค่าตอบแทนหรือเบี้ยเลี้ยง บางแห่งไม่ให้ ตามกฎหมาย ถ้าเป็นโครงการฝึกงานที่เป็นทางการและระบุในสัญญา บริษัทต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 50% ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุดของจังหวัดนั้น แต่ในทางปฏิบัติอัตราค่าตอบแทนแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ไม่มีเลยจนถึงหลายพันบาทต่อเดือน

ฝึกงานดีไหม การฝึกงานมีประโยชน์หลายด้าน ช่วยให้ได้ลองสายงานจริง รู้ว่าตัวเองชอบหรือเหมาะกับงานแบบไหน สร้าง Portfolio และประสบการณ์ที่จะใช้เวลาสมัครงานจริง สร้าง Network ในวงการที่สนใจ และเพิ่มโอกาสได้งานหลังจบ โดยเฉพาะถ้าเลือกที่ฝึกงานที่ได้เรียนรู้จริง ฝึกงานปกติกับสหกิจศึกษาต่างกันอย่างไร ฝึกงานปกติมักใช้เวลาสั้น 1 ถึง 3 เดือน ทำในช่วงปิดเทอม บางมหาลัยนับเป็นหน่วยกิต บางที่เป็นตัวเลือกเสริม มีความยืดหยุ่นสูง ส่วนสหกิจศึกษาเป็นการฝึกงานเต็มเวลาอย่างน้อย 4 ถึง 6 เดือน นับเป็นหน่วยกิตหลักในหลักสูตร มีโครงสร้างชัดเจน มีอาจารย์ที่ปรึกษาคอยนิเทศ มีการประเมินผลอย่างเป็นทางการ และมักได้รับค่าตอบแทนตามเกณฑ์ที่กำหนด สหกิจจึงจริงจังและมีมาตรฐานสูงกว่าฝึกงานปกติ

สหกิจศึกษาคืออะไร สหกิจศึกษาหรือ Cooperative Education คือระบบการศึกษาที่ให้นักศึกษาสลับระหว่างเรียนในมหาลัยกับไปทำงานจริงในองค์กร เพื่อสร้างสมรรถนะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน นักศึกษาต้องทำงานเต็มเวลาอย่างน้อย 16 ถึง 18 สัปดาห์ มีอาจารย์ที่ปรึกษาและพี่เลี้ยงจากบริษัทคอยดูแล มีการประเมินผลและนับเป็นหน่วยกิตจบ หลายมหาลัยมีศูนย์สหกิจที่จัดหาบริษัทคู่สัญญาและดูแลกระบวนการทั้งหมด ทำให้สหกิจเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีมาตรฐานและเป็นระบบมากกว่าการฝึกงานทั่วไป

อ้างอิง

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (ม.ป.ป.). โครงการส่งเสริมการจัดสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (CWIE). https://www.mhesi.go.th/index.php/flagship-project/6820-CWIE.html

Thai-German Graduate School of Engineering. (2014). Internship guideline & procedure. King Mongkut's University of Technology North Bangkok. https://tggs.kmutnb.ac.th/internship

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2565, 27 มกราคม). โครงการส่งเสริมการจัดสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน. https://www.mhesi.go.th/index.php/flagship-project/6820-CWIE.html

ทันสมัย. (2567, 23 เมษายน). ครม.สั่งศึกษากฎหมาย "นักศึกษาฝึกงาน" ต้องได้ค่าตอบแทน เบี้ยเลี้ยง คุ้มครอง. https://www.thansettakij.com/business/economy/594260

มติชน. (2567, 23 เมษายน). ครม.รับทราบรายงาน แก้ปัญหานักศึกษาฝึกงาน หลังพบไม่เป็นลูกจ้าง ตามกฎหมายแรงงาน. https://www.matichon.co.th/politics/news_4541528

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. (ม.ป.ป.). คู่มือสหกิจศึกษา สำหรับสถานประกอบการ. https://coop.sut.ac.th/EN/file/Coop_Handbook_for_student-adviser.pdf

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. (ม.ป.ป.). สหกิจศึกษาไทย. http://huso.pn.psu.ac.th/coop/index.php/about-co-operative-education/history-a-cooperative-education-thailand

Jobsdb. (ม.ป.ป.). Internship Jobs in Thailand. https://th.jobsdb.com/internship-jobs

LinkedIn. (ม.ป.ป.). Internship jobs in Thailand. https://www.linkedin.com/jobs/search/?geoId=105146118&keywords=internship&location=Thailand

Nucamp. (2567, 25 ธันวาคม). Top 10 Tech Internships Offered in Thailand. https://www.nucamp.co/blog/coding-bootcamp-thailand-tha-top-10-tech-internships-offered-in-thailand

Sanook. (2567, 25 มีนาคม). เฉลยแล้ว! เด็กฝึกงานต้องได้ค่าตอบแทนจากบริษัทมั้ย. https://www.sanook.com/money/922095/

The Matter. (2564, 31 สิงหาคม). เด็กฝึกงานควรได้สวัสดิการอย่างไร? สำรวจข้อเสนอ 'พรบ. การ

ฝึกงาน' จากศูนย์วิจัยรัฐสวัสดิการ. https://thematter.co/social/intern-with-welfare-will-win/153671

United Nations ESCAP. (ม.ป.ป.). Internships Opportunities. https://www.unescap.org/jobs/internships

เด็กฝึกงาน.com. (ม.ป.ป.). หาเด็กฝึกงาน หาที่ฝึกงาน ศูนย์รวมบริษัทที่รับนักศึกษาฝึกงานทั่วประเทศ. https://xn--12cas3c2av3m3a0g7c.com/

บทความเพิ่มเติม

5 ข้อต้องรู้ การเขียน Resume ที่ดี ให้ HR สนใจ เพิ่มโอกาสเรียกสัมภาษณ์ | ฉบับสมบูรณ์

วิธีหางานด้วย AI | ให้ง่ายขึ้น อัพเดท 2025

สมัครงานที่ไหนดี รวมช่องทางสมัครงานในไทยปี 2025