Software Tester เงินเดือนประมาณเท่าไหร่

เงินเดือนของ Software Tester ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับประสบการณ์และตำแหน่ง โดยระดับ Junior Tester ประมาณ 18,000–35,000 บาทต่อเดือน ระดับ Senior Tester ประมาณ 35,000–60,000 บาท Test Automation Engineer ประมาณ 45,000–80,000 บาท Test Lead ประมาณ 60,000–100,000 บาท และ QA Manager ตั้งแต่ประมาณ 80,000–150,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดบริษัท อุตสาหกรรม และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ตลาดงาน Software Tester ในไทยเป็นอย่างไร

ตำแหน่ง Software Tester ในประเทศไทยกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะในบริษัท FinTech ธนาคาร E-commerce และ Startup ที่ต้องการคนดูแลคุณภาพระบบ จุดเด่นคือตลาดงานค่อนข้างกว้าง ไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเก่งมากตั้งแต่เริ่มต้น มีโอกาสเติบโตสูง และเหมาะกับคนที่ละเอียดรอบคอบ ชอบการวิเคราะห์ และอยากทำงานในสายเทคโนโลยี

Software Tester คืออะไร รู้จักเส้นทางอาชีพการเติบโต เงินเดือน ในประเทศไทย

Q: Software Tester ทำอะไรบ้าง

งานหลักของ Software Tester คือทดสอบระบบตาม Test Case เขียน Bug Report และบันทึกรายละเอียดข้อบกพร่อง วิเคราะห์ Requirement ร่วมกับทีม พัฒนา Test Scenario ตรวจสอบว่าทุกฟังก์ชันทำงานถูกต้อง ประสานงานกับ Developer และ Product Owner รวมถึงสร้าง Automation Script สำหรับการทดสอบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังต้องวิเคราะห์ Root Cause ของปัญหาและช่วยปรับปรุงกระบวนการทดสอบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Q: เส้นทางอาชีพของ Software Tester เป็นอย่างไร

เส้นทางอาชีพของ Software Tester มักเริ่มจาก Junior Tester ที่โฟกัสการเรียนรู้พื้นฐานและทำ Manual Testing จากนั้นเติบโตเป็น Senior Tester ที่ออกแบบการทดสอบเอง และสามารถเลือกต่อยอดได้หลายสาย เช่น สาย Technical อย่าง Test Automation Engineer หรือ SDET สายบริหารอย่าง Test Lead และ QA Manager หรือสายเฉพาะทาง เช่น Performance Testing, Security Testing, Mobile Testing และ API Testing รวมถึงสามารถเปลี่ยนสายไปเป็น Business Analyst, Product Owner, Scrum Master หรือ Project Manager ได้ เพราะมีความเข้าใจทั้งเทคนิค ธุรกิจ และพฤติกรรมผู้ใช้งาน

Panus Sakulsak HyperworkTH
18 พ.ย.
ยาว 3 นาที

อัปเดตเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

ภาพปกบทความ Hyperwork หัวข้อ “ทำความรู้จัก Software Tester” พร้อมพื้นหลังหน้าจอเขียนโค้ดและคีย์บอร์ด สื่อถึงงานทดสอบซอฟต์แวร์ เงินเดือน และเส้นทางอาชีพในประเทศไทย — ทำความรู้จัก Software Tester

Software Tester คือผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบคุณภาพซอฟต์แวร์ที่มีหน้าที่ทดสอบระบบ แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ก่อนส่งมอบให้ผู้ใช้งานจริง เพื่อค้นหาข้อบกพร่อง ตรวจสอบว่าทุกฟังก์ชันทำงานได้ตามที่กำหนด และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดปัญหากับผู้ใช้งาน โดยใช้วิธีการทดสอบทั้งแบบ Manual Testing และ Automation Testing

ถ้าพูดถึงตำแหน่งงานในวงการเทคโนโลยี หลายคนคงนึกถึง Developer หรือ Programmer กันเป็นอันดับแรก แต่รู้หรือไม่ว่ามีอีกหนึ่งตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ Software Tester หรือที่บางที่เรียกว่า QA Tester ตำแหน่งนี้อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในคนไทยนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว Software Tester คือคนที่ช่วยให้ทุกแอปพลิเคชัน ทุกเว็บไซต์ ทุกระบบที่เราใช้อยู่ทุกวัน ทำงานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย ลองนึกภาพดูว่า ถ้า Developer คือช่างที่สร้างบ้าน Software Tester ก็คือผู้ตรวจสอบที่เดินเช็คทุกห้อง ลองเปิดปิดประตูหน้าต่างทุกบาน ทดสอบว่าไฟฟ้าทำงานไหม ก๊อกน้ำรั่วไหม หรือมีอะไรที่อาจเป็นอันตรายต่อคนที่จะเข้าไปอยู่หรือไม่ ก่อนที่จะส่งมอบบ้านหลังนั้นให้กับเจ้าของ

ในประเทศไทย ตำแหน่ง Software Tester กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในบริษัท FinTech ธนาคาร E-commerce และ Startup ต่าง ๆ ที่ต้องการคนมาดูแลคุณภาพของระบบ สิ่งที่น่าสนใจคือ คุณไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเก่งมากก็สามารถเริ่มต้นในสายงานนี้ได้ และมีเส้นทางการเติบโตเช่นกัน สามารถก้าวหน้าไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือแม้แต่ต่อยอดไปสายอื่น ๆ ได้อีกมาก บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับตำแหน่ง Software Tester ตั้งแต่หน้าที่ความรับผิดชอบ ทักษะที่ต้องมี ไปจนถึงเส้นทางอาชีพที่คุณสามารถเดินต่อไปได้ในอนาคต

เส้นทางอาชีพของ Software Tester

เส้นทางอาชีพของ Software Tester ไม่ได้หยุดอยู่แค่การทดสอบซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว แต่มีหลายขั้นตอนที่คุณสามารถเติบโตและพัฒนาตัวเองได้ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับผู้บริหาร หรือแม้แต่ต่อยอดไปสายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาดูกันว่าแต่ละระดับมีหน้าที่อย่างไร ใช้เวลาเท่าไหร่ และได้เงินเดือนประมาณเท่าไหร่ในประเทศไทย

Junior Tester / QA Tester (ประสบการณ์ 0-2 ปี)

นี่คือจุดเริ่มต้นสำหรับคนที่เพิ่งเข้าสู่สายงานนี้ ในช่วงนี้ จะได้เรียนรู้วิธีการทดสอบระบบ วิธีเขียน Bug Report และทำความเข้าใจกับ flow การทำงานของ Product ที่รับผิดชอบ คุณจะได้ฝึกทักษะการสังเกต การจับรายละเอียด และการสื่อสารกับทีม Developer และ Product Owner

หน้าที่หลัก

• ทำ Manual Testing ตาม Test Case ที่ Senior กำหนด

• เขียน Bug Report และบันทึกรายละเอียดของข้อบกพร่องที่เจอ

• ช่วยตั้งค่าสภาพแวดล้อมการทดสอบระบบ

• เรียนรู้กระบวนการและเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Jira, Postman, Browser DevTools

เป้าหมายสำคัญในระดับนี้คือการสร้างพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับ Software Development Life Cycle และเรียนรู้การใช้เครื่องมือพื้นฐานให้คล่องแคล่ว จะต้องสามารถทำงานได้อย่างละเอียดรอบคอบ และสื่อสารกับทีมได้ดี

เงินเดือนในไทย อยู่ที่ประมาณ 18,000 ถึง 35,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับขนาดบริษัทและอุตสาหกรรม)

Senior Tester / QA Engineer (ประสบการณ์ 2-5 ปี)

เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น จะพัฒนาจากการทำตาม Test Case ไปสู่การออกแบบและวางแผนการทดสอบด้วยตัวเอง มีส่วนในการตัดสินใจว่าควรทดสอบอะไรบ้าง ใช้วิธีไหนดี ในระดับนี้ อาจจะได้เริ่มเรียนรู้ Automation Testing หรือเชี่ยวชาญในการทดสอบเฉพาะทาง เช่น API Testing, Performance Testing หรือ Security Testing

หน้าที่หลัก

เขียน Test Case และ Test Scenario ด้วยตัวเอง
วิเคราะห์ Requirement ร่วมกับ Business Analyst และ Product Owner
Review Test Case ของ Junior และให้คำแนะนำ
วิเคราะห์ Root Cause ของ Bug ที่ซับซ้อนขึ้น
สำรวจและประเมินเครื่องมือการทดสอบใหม่ ๆ

เป้าหมายคือการพัฒนาทักษะด้านเทคนิคให้ลึกขึ้น เข้าใจระบบมากขึ้น และเริ่มมีบทบาทในการตัดสินใจทางเทคนิค

เงินเดือนในไทย อยู่ที่ประมาณ 35,000 ถึง 60,000 บาทต่อเดือน

Test Automation Engineer / SDET (ประสบการณ์ 3-5 ปีขึ้นไป)

เส้นทางนี้เหมาะกับคนที่ชอบด้านเทคนิคและการเขียนโปรแกรม ตำแหน่งนี้ต้องการทักษะการเขียนโปรแกรมที่ดี เข้าใจภาษาอย่าง Python, JavaScript หรือ Java และรู้จักเครื่องมืออย่าง Selenium, Cypress, Playwright หรือ Appium สำหรับ Mobile Testing รวมถึงความเข้าใจทั้งด้าน Testing และ Development

หน้าที่หลัก

ออกแบบและเขียน Script เพื่อทำการทดสอบแบบอัตโนมัติ
สร้าง Test Framework ที่ดี มีมาตรฐาน
ทำงานร่วมกับ CI/CD Pipeline เพื่อทำ Test Automation
เข้าใจและสร้าง Test Automation Strategy
ดูแลและปรับปรุง Automation Script

เป้าหมายคือการสร้างระบบทดสอบที่มีประสิทธิภาพ ลดเวลาการทดสอบด้วยมือ และเพิ่มความครอบคลุมของการทดสอบ

เงินเดือนในไทย อยู่ที่ประมาณ 45,000 ถึง 80,000 บาทต่อเดือน

Test Lead / QA Lead (ประสบการณ์ 5-7 ปี)

เส้นทางนี้เหมาะกับคนที่ชอบการบริหารจัดการและประสานงาน ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกเครื่องมือ เทคนิคการทดสอบ และจัดสรรงานให้กับทีม ในบางครั้งอาจต้องรายงานสถานะการทดสอบและความเสี่ยงให้กับผู้บริหาร

หน้าที่หลัก

วางกลยุทธ์การทดสอบโดยรวมสำหรับทั้ง Project หรือทั้ง Product
ดูแลและให้คำแนะนำแก่ทีม Tester
ประสานงานระหว่าง Developer, Product Owner และ Business Analyst
Review Test Case และ Test Strategy ที่ทีมสร้างขึ้น
ตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกเครื่องมือและเทคนิคการทดสอบ

เป้าหมายคือการดูแลให้การทดสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทีมทำงานได้ดี และ Product มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด

เงินเดือนในไทย อยู่ที่ประมาณ 60,000 ถึง 100,000 บาทต่อเดือน

QA Manager / Test Manager (ประสบการณ์ 7 ปีขึ้นไป)

นี่คือระดับผู้บริหารที่ดูแลทีม QA ทั้งหมดขององค์กร ต้องรายงานผลให้กับผู้บริหารระดับสูง ดูแลหลาย ๆ โครงการพร้อมกัน และมีส่วนในการตัดสินใจว่า Product พร้อม Release หรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องดูแลการพัฒนาทีม การฝึกอบรม และการสร้างวัฒนธรรม Quality First ในองค์กร

หน้าที่หลัก

กำหนด QA Strategy ในระดับองค์กร
จัดหาทรัพยากรและจัดสรรงบประมาณ
ตัดสินใจเกี่ยวกับกระบวนการและมาตรฐาน QA ของทั้งบริษัท
รายงานผลให้กับผู้บริหารระดับสูง
กำกับดูแลการเพิ่มประสิทธิภาพและนวัตกรรม

เป้าหมายคือการสร้างระบบ QA ที่มาตรฐาน พัฒนาทีมให้เติบโต และทำให้ทั้งองค์กรเห็นคุณค่าของคุณภาพซอฟต์แวร์

เงินเดือนในไทย อยู่ที่ประมาณ 80,000 ถึง 150,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป

(ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของบริษัท)

เส้นทางเฉพาะทาง (Specialist Paths)

นอกจากเส้นทางหลักแล้ว Software Tester ยังสามารถเลือกเชี่ยวชาญในสายงานเฉพาะได้ เช่น Performance Testing Specialist ที่เน้นทดสอบว่าระบบรับ Load ได้เท่าไหร่

Security Testing Specialist ที่เน้นหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
Mobile Testing Specialist ที่เชี่ยวชาญการทดสอบแอปบนมือถือทั้ง iOS และ Android
API Testing Specialist ที่เน้นทดสอบ Backend และ API อย่างลึกซึ้ง

การเป็น Specialist จะทำให้มีความเชี่ยวชาญสูงในด้านนั้น ๆ และมักได้รับค่าตอบแทนที่ดีกว่าตำแหน่งทั่วไป โดยเฉพาะในบริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

เงินเดือนในไทยสำหรับ Specialist อยู่ที่ประมาณ 50,000 ถึง 120,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญและความต้องการในตลาด)

การต่อยอดสู่สายอื่น

สิ่งที่น่าสนใจของอาชีพ Software Tester คือ สามารถต่อยอดไปสายอื่นได้หลากหลาย เพราะมีความเข้าใจทั้งด้านเทคนิค ธุรกิจ และพฤติกรรมผู้ใช้งาน หลายคนเลือกย้ายไปเป็น Business Analyst หรือ Product Owner เพราะมีความเข้าใจ Requirement และสามารถมองเห็นภาพรวมของ Product ได้ดี บางคนเลือกไปเป็น Scrum Master หรือ Project Manager เพราะมีประสบการณ์ในการประสานงานและเข้าใจกระบวนการทำงานของทีม และยังมีคนที่เลือกเรียนรู้การเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมแล้วเปลี่ยนไปเป็น Developer หรือ SDET เต็มตัว

Software Tester เป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาคุณภาพของซอฟต์แวร์ก่อนส่งมอบให้ผู้ใช้งานจริง ไม่ใช่แค่การหา Bug แต่เป็นการทำให้มั่นใจว่าทุกระบบทำงานได้ตามที่ควรจะเป็น และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน

เส้นทางอาชีพของ Software Tester เริ่มจาก Junior Tester ที่เน้นการเรียนรู้พื้นฐาน ไปสู่ Senior Tester ที่มีบทบาทในการออกแบบการทดสอบ จากนั้นสามารถเลือกต่อได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นสาย Technical อย่าง Automation Engineer สายบริหารอย่าง Test Lead หรือ QA Manager หรือแม้แต่การเชี่ยวชาญในสายเฉพาะทาง เช่น Performance Testing หรือ Security Testing นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดไปสายอื่น ๆ ได้ เช่น Business Analyst, Product Owner หรือ Project Manager

สำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพในวงการเทคโนโลยี แต่ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นตรงไหน Software Tester อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเก่งมากตั้งแต่เริ่มต้น มีความต้องการในตลาดงานสูง และที่สำคัญคือ มีโอกาสในการเติบโตและพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง

หากสนใจงานด้าน IT และ Non-IT สามารถติดต่อเราได้ที่

ติดต่อเรา

Hyperwork คือใคร?

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Software Tester คืออะไร Software Tester คือผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบคุณภาพซอฟต์แวร์ที่มีหน้าที่ทดสอบระบบ แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ก่อนส่งมอบให้ผู้ใช้งานจริง เพื่อค้นหาข้อบกพร่องและตรวจสอบว่าทุกฟังก์ชันทำงานได้ตามที่กำหนด โดยใช้วิธีการทดสอบทั้งแบบ Manual Testing และ Automation Testing เปรียบเสมือนผู้ตรวจสอบที่เดินเช็คทุกส่วนของระบบก่อนส่งมอบให้ลูกค้า

Software Tester เงินเดือน เงินเดือนของ Software Tester ในประเทศไทยแตกต่างกันตามระดับประสบการณ์ โดยระดับ Junior Tester อยู่ที่ประมาณ 18,000 ถึง 35,000 บาทต่อเดือน ระดับ Senior Tester ได้ประมาณ 35,000 ถึง 60,000 บาท ส่วน Test Automation Engineer ได้ 45,000 ถึง 80,000 บาท ระดับ Test Lead ได้ 60,000 ถึง 100,000 บาท และระดับ QA Manager สามารถได้ตั้งแต่ 80,000 ถึง 150,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดบริษัท อุตสาหกรรม และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

Software Tester ทำอะไรบ้าง Software Tester มีหน้าที่หลักในการทดสอบระบบตาม Test Case ที่กำหนด เขียน Bug Report และบันทึกรายละเอียดของข้อบกพร่อง วิเคราะห์ Requirement ร่วมกับทีมงาน ออกแบบและเขียน Test Scenario ตรวจสอบว่าทุกฟังก์ชันทำงานถูกต้อง ประสานงานกับ Developer และ Product Owner รวมถึงสร้าง Automation Script สำหรับการทดสอบแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังต้องวิเคราะห์ Root Cause ของปัญหาที่ซับซ้อนและช่วยปรับปรุงกระบวนการทดสอบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Software Tester ในไทย ตำแหน่ง Software Tester ในประเทศไทยกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในบริษัท FinTech ธนาคาร E-commerce และ Startup ต่าง ๆ ที่ต้องการคนมาดูแลคุณภาพของระบบ สิ่งที่น่าสนใจคือไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเก่งมากตั้งแต่เริ่มต้น มีความต้องการในตลาดงานสูง และมีโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตำแหน่งนี้เหมาะกับคนที่มีความละเอียดรอบคอบ ชอบการวิเคราะห์ และต้องการทำงานในวงการเทคโนโลยี

Software Tester เส้นทางอาชีพเส้นทางอาชีพของ Software Tester เริ่มจากระดับ Junior Tester ที่เน้นการเรียนรู้พื้นฐานและทำ Manual Testing จากนั้นพัฒนาไปสู่ Senior Tester ที่มีบทบาทในการออกแบบการทดสอบด้วยตัวเอง สามารถเลือกเส้นทางได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นสาย Technical อย่าง Test Automation Engineer หรือ SDET สายบริหารอย่าง Test Lead และ QA Manager หรือการเชี่ยวชาญในสายเฉพาะทาง เช่น Performance Testing, Security Testing, Mobile Testing หรือ API Testing นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดไปสายอื่น ๆ ได้ เช่น Business Analyst, Product Owner, Scrum Master หรือ Project Manager เพราะมีความเข้าใจทั้งด้านเทคนิค ธุรกิจ และพฤติกรรมผู้ใช้งาน