อยากฝึกงานระหว่างเรียน ต้องเริ่มยังไง? คู่มือฉบับนักศึกษายุคใหม่
- Yotsapat Hyperwork
- 3 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที

อยากฝึกงานระหว่างเรียน ต้องเริ่มยังไง? คู่มือฉบับนักศึกษายุคใหม่
หลายคนอาจเข้าใจว่าการฝึกงานต้องรอให้ถึงช่วงปีสุดท้ายของการเรียน หรือฝึกเฉพาะตอนปิดเทอมยาว ๆ เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว "ฝึกงานระหว่างเรียน" คือโอกาสสำคัญในการเติบโต และสร้างแต้มต่อให้ตัวเองในตลาดแรงงาน
หากคุณกำลังคิดว่าอยากฝึกงานตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลย
✅ 1. ตรวจสอบตารางเรียนและขอคำปรึกษากับคณาจารย์
ก่อนเริ่มกระบวนการหาที่ฝึกงาน นักศึกษาควรเริ่มจากการตรวจสอบตารางเรียนของตนเองอย่างละเอียด เพื่อประเมินช่วงเวลาที่ตนสามารถฝึกงานได้ในแต่ละวัน เช่น ช่วงเช้า บ่าย หรือเย็น รวมถึงการสำรวจว่าวันใดในแต่ละสัปดาห์ที่ไม่มีตารางเรียนเลย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณารูปแบบการฝึกงานที่เหมาะสม เช่น:
การฝึกงานแบบพาร์ทไทม์ (Part-time) โดยทำงานวันละไม่กี่ชั่วโมง
การฝึกงานแบบออนไลน์หรือ Remote ที่สามารถทำงานจากที่บ้าน
การฝึกงานเฉพาะในช่วงวันหยุด เช่น วันเสาร์-อาทิตย์
นอกจากนี้ นักศึกษาควรเข้าปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์ประจำหลักสูตร เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางในการฝึกงานให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและไม่กระทบต่อการเรียน หากมีความจำเป็น นักศึกษาสามารถสอบถามได้ว่าในกรณีที่ยังมีการเรียนอยู่ จะสามารถฝึกงานควบคู่ไปได้หรือไม่ และควรเลือกงานลักษณะใดที่สอดคล้องกับตารางเรียนและเป้าหมายทางวิชาชีพของตนเอง
การเตรียมความพร้อมในขั้นตอนนี้จะช่วยให้การฝึกงานดำเนินไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และส่งผลดีต่อทั้งการเรียนและการทำงานในอนาคต
✅ 2. การค้นหาบริษัทเพื่อฝึกงาน
เมื่อนักศึกษาทราบช่วงเวลาที่สามารถฝึกงานได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการมองหาบริษัทที่มีความเข้าใจในข้อจำกัดของนักศึกษา และมีรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น เหมาะสมกับวงจรชีวิตของนักศึกษา เช่น การเปิดรับการฝึกงานแบบ Part-time, Remote หรือ Internship ในวันหยุดสุดสัปดาห์
นอกจากนี้ นักศึกษาควรเลือกบริษัทหรือตำแหน่งงานที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่กำลังศึกษาอยู่ หรืออย่างน้อยควรเกี่ยวข้องกับสายอาชีพที่นักศึกษามีความสนใจ เพราะจะช่วยเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นทางอาชีพในอนาคต
ช่องทางแนะนำในการค้นหาสถานที่ฝึกงาน:
Facebook: ตรวจสอบโพสต์จากเพจของบริษัทโดยตรง หรือเข้าร่วมกลุ่ม Facebook Group ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกงานหรือสายอาชีพที่สนใจ
LinkedIn: แพลตฟอร์มสำหรับมืออาชีพที่สามารถใช้ค้นหางาน ฝึกงาน และเชื่อมต่อกับผู้คนในสายงานธุรกิจ
Google: การค้นหาด้วย Keyword เช่น “Internship + สาขาวิชา” มักให้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจจากเว็บไซต์บริษัทหรือบล็อกต่างๆ
Job Fair: งานมหกรรมจัดหางานที่จัดโดยมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานภายนอก ซึ่งมักมีบริษัทมารับสมัครนักศึกษาฝึกงานโดยตรง
Job Search Applications: โดยควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าตำแหน่งที่ลงประกาศเป็น "Internship"
การใช้หลายช่องทางร่วมกันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาสถานที่ฝึกงานที่เหมาะสมมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้นักศึกษาได้เปรียบเทียบทางเลือกหลากหลาย และสามารถเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ตนเองได้ดีที่สุด
✅ 3. ขั้นตอนการสมัครฝึกงานในบริษัท
กระบวนการสมัครฝึกงานในบริษัททั่วไป มักประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การทำเรซูเม่ (Resume), การทำแบบทดสอบ (Assessment/Test), และการสัมภาษณ์ (Interview) ซึ่งแต่ละขั้นตอนล้วนมีความสำคัญ และควรมีการเตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสม
1. การทำ Resume
สำหรับนักศึกษาที่อาจยังไม่มีประสบการณ์ทำงานจริง การทำ Resume ควรมุ่งเน้นไปที่การแสดง “ศักยภาพ” และ “ผลงานที่เกี่ยวข้อง” แทน เช่น:
โปรเจกต์ที่เคยทำ โดยเฉพาะโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร
ความสำเร็จหรือกิจกรรมเด่น ที่แสดงถึงทักษะ ความรับผิดชอบ และความสามารถในการทำงาน
รางวัลหรือประกวด ที่เคยได้รับ
สิ่งสำคัญคือ ควรระบุ Keyword หรือ “คำศัพท์ทางเทคนิค” ที่ใช้ในสายงานนั้น ๆ เพื่อให้ Resume ของเราผ่านการคัดกรองเบื้องต้น (Applicant Tracking System - ATS) ได้ง่ายขึ้น และสะท้อนถึงความเข้าใจในเนื้องานอย่างแท้จริง
2. การทำแบบทดสอบ (Assessment/Test)
บริษัทบางแห่ง โดยเฉพาะสายเทคโนโลยีหรือวิศวกรรม อาจมีการให้ผู้สมัครทำแบบทดสอบก่อนเข้ารับการสัมภาษณ์ เช่น การเขียนโปรแกรม การแก้โจทย์เชิงตรรกะ หรือแบบทดสอบเชิงเทคนิคอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินทักษะ นักศึกษาควรเตรียมตัวและฝึกฝนให้พร้อมสำหรับขั้นตอนนี้
3. การสัมภาษณ์ (Interview)
หากผ่านการคัดเลือกจากสองขั้นตอนแรกแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการสัมภาษณ์ ซึ่งนักศึกษาควรเตรียมตัวล่วงหน้าดังนี้:
ค้นหาและฝึกตอบคำถามที่พบบ่อยในการสัมภาษณ์ โดยสามารถค้นใน YouTube ด้วยคำว่า “คำถามสัมภาษณ์งานที่พบบ่อย”
เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับ ตำแหน่งงาน ที่สมัคร และศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ บริษัท อย่างละเอียด
หากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ การสัมภาษณ์อาจเป็นภาษาอังกฤษ นักศึกษาควรฝึกภาษาอังกฤษทั้งการพูดและการฟังให้ดีล่วงหน้า
ทำสคริปต์ ฝึกพูดให้คล่อง เพื่อลดความตื่นเต้นวิตกกังวล
Tips สำหรับการสัมภาษณ์
หมายเหตุ: ขั้นตอนทั้งสามข้อนี้เป็นแนวทางโดยทั่วไป ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันในแต่ละบริษัท บางแห่งอาจไม่มีแบบทดสอบ หรือบางแห่งอาจเน้นการสัมภาษณ์มากกว่าขั้นตอนอื่น
✅ 4. แจ้งอาจารย์ที่ปรึกษา / คณะ เมื่อผ่านการคัดเลือกเข้าฝึกงาน
หลังจากที่นักศึกษาได้รับการตอบรับจากบริษัทฝึกงานเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ไม่ควรมองข้ามคือ การแจ้งอาจารย์ที่ปรึกษาและคณะ เพื่อดำเนินการในส่วนของเอกสารและขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นการฝึกงานนอกแผนการศึกษา (Internship outside academic plan)
สิ่งที่นักศึกษาควรดำเนินการ มีดังนี้:
ติดต่อสำนักงานคณะ (Faculty Office) เพื่อสอบถามขั้นตอนและเอกสารที่จำเป็นในการยื่นขออนุมัติการฝึกงาน
ขอจดหมายรับรอง/หนังสืออนุญาต จากอาจารย์ที่ปรึกษา (Academic Advisor), อาจารย์ผู้สอนในบางรายวิชา หรือแม้กระทั่งคณบดี ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละมหาวิทยาลัย
กรอกแบบฟอร์มฝึกงานภายนอก โดยต้องใส่รายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เช่น ข้อมูลบริษัท ระยะเวลาฝึกงาน ลายเซ็นรับรองจากบริษัท และอาจต้องมีตราประทับจากบริษัทประกอบด้วย
ขอความร่วมมือจากบริษัทฝึกงาน ในการกรอกเอกสารหรือออกหนังสือยืนยัน (Internship Confirmation Letter) เพื่อยืนยันการรับนักศึกษาเข้าฝึกงานอย่างเป็นทางการ
รอผลการอนุมัติจากมหาวิทยาลัย เพื่อให้สามารถดำเนินการฝึกงานได้อย่างถูกต้องตามข้อบังคับ
ข้อแนะนำเพิ่มเติม:
อย่าลืมพูดคุยและขอคำปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนเริ่มดำเนินการทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบของมหาวิทยาลัย และจะช่วยให้นักศึกษาสามารถฝึกงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาภายหลัง
การประสานงานอย่างเป็นระบบกับมหาวิทยาลัยจะช่วยให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์การฝึกงานอย่างสมบูรณ์แบบทั้งในด้านวิชาการและวิชาชีพ
✅ 5. การเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มฝึกงาน: จัดการเวลา ชีวิต และ
ความคาดหวัง
หลังจากผ่านทุกขั้นตอนก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล สมัครงาน และประสานงานกับทางมหาวิทยาลัย ขั้นตอนถัดไปที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มฝึกงาน ทั้งในแง่ของเวลา การใช้ชีวิต และการเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบหลายสิ่งไปพร้อมกัน
การฝึกงานไม่เพียงแต่เป็นประสบการณ์เชิงวิชาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการฝึก “การจัดการตนเอง” ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่จะติดตัวไปตลอดเส้นทางอาชีพของนักศึกษา
คำถามที่ควรถามตัวเองก่อนเริ่มฝึกงาน
เพื่อให้การฝึกงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ลองเริ่มจากการถามตนเองในมุมต่าง ๆ ต่อไปนี้:
ด้านการเรียน (Academic Balance)
การฝึกงานจะส่งผลกระทบกับผลการเรียนหรือไม่?
หากมีชั้นเรียนหรือ Assignment ค้างอยู่ จะบริหารเวลาอย่างไรให้ไม่สะดุด?
จะมีแผนการติดตามเนื้อหาในห้องเรียนอย่างไรในช่วงที่ฝึกงาน?
ด้านการทำงาน (Work Responsibility)
เราสามารถทำงานในวันและเวลาใดได้บ้าง โดยไม่กระทบกับตารางเรียน?
หน้าที่ (Responsibilities) และความรับผิดชอบ (Accountabilities) ของเรามีอะไรบ้าง?
มีสิ่งใดที่เราจำเป็นต้องเตรียมล่วงหน้าก่อนเริ่มฝึกงาน เช่น อุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ หรือทักษะเฉพาะทาง?
ด้านการใช้ชีวิต (Personal Readiness)
สถานที่ฝึกงานอยู่ไกลจากที่พักหรือไม่? เดินทางสะดวกแค่ไหน?
ค่าใช้จ่ายระหว่างการฝึกงานมีอะไรบ้าง เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร หรือค่าอุปกรณ์?
เราพร้อมที่จะเสียสละเวลา ความสบาย หรือกิจกรรมพักผ่อนบางอย่าง เพื่อโอกาสและผลลัพธ์ที่ดีในอนาคตหรือไม่?
“คำตอบที่ดีมักเริ่มต้นจากคำถามที่ดี” เพราะการตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจัง จะช่วยให้เรามองเห็นเป้าหมาย ความคาดหวัง และแนวทางในการวางแผนการฝึกงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
✨ Tips พิเศษจากรุ่นพี่:
ฝึกงานออนไลน์ช่วยประหยัดเวลาเดินทาง
เลือกฝึกงานที่ตรงกับวิชาที่เรียนหรือสายที่สนใจ
ฝึกงานระหว่างเรียนทำให้คุณมี Portfolio ไว้สมัครงานจริงได้เลย
🏆 แล้วนักศึกษาคาดหวังอะไรจากการฝึกงาน?
โดยทั่วไป นักศึกษาที่ฝึกงานมักแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก:
กลุ่มแรก: ฝึกเพื่อจบการศึกษา ตามหลักสูตรมหาวิทยาลัย ต้องทำครบตามจำนวนชั่วโมงและส่งรายงานให้ผ่านเกณฑ์
กลุ่มที่สอง: ฝึกด้วยความตั้งใจจริง เพราะอยากเรียนรู้และเตรียมตัวสู่โลกการทำงาน หรือแม้แต่เพื่อสร้างผลงานใน Portfolio และหาทางเข้าสู่บริษัทในฝัน
แต่ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มไหน นักศึกษาส่วนใหญ่ก็มี "ความคาดหวัง" ที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้:
สิ่งที่ได้รับ | คำอธิบาย |
🌟1.ได้ลงมือทำงานจริง | นักศึกษาจะได้มีบทบาทในงานจริง ได้ทำโปรเจกต์ ได้ใช้ทักษะที่เรียนมา และได้เผชิญกับสถานการณ์จริง ไม่ใช่แค่นั่งเฝ้าหรือดูงานเฉย ๆ |
🌟2.ได้รับคำแนะนำจากพี่เลี้ยง | การมี Mentor ที่พร้อมให้คำปรึกษา แนะนำ และ Feedback ที่สร้างสรรค์จะช่วยให้นักศึกษามั่นใจและกล้าปรับปรุงตัวเอง |
🌟3.ได้ฝึก Soft Skills | ไม่ใช่แค่ความรู้ แต่รวมถึงทักษะชีวิต เช่น:
|
🌟4. มีผลงานติดมือกลับบ้าน | นักศึกษาจะได้สร้างชิ้นงานจริง เช่น คอนเทนต์ บทความ รายงาน UX/UI เว็บไซต์ หรือวิดีโอ ฯลฯ ที่สามารถนำไปใช้สมัครงานจริงหรือใส่ใน Portfolio ได้ |
🌟5. โอกาสในการต่อยอด |
|
🌟6. ได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น | การฝึกงานทำให้นักศึกษาได้ทดลองทำงานในสาขาที่เรียน ว่าใช่หรือไม่ใช่ตัวตนของตัวเอง และวางแผนอาชีพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น |
ฝึกงานระหว่างเรียนไม่ใช่แค่เรื่องของเวลา แต่คือโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองล่วงหน้าก่อนใคร
ถ้าคุณอยากเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ อย่ารอให้โอกาสผ่านไป ลงมือวางแผน แล้วเริ่มเลย!
Hyperwork ขอเป็นกำลังใจให้นักศึกษาทุกคน ได้เจอกับที่ฝึกงานที่ใช่ และได้เริ่มต้นเส้นทางแห่งการเติบโตอย่างมั่นใจ
หาคุณสนใจที่จะติดต่อเราโปรดคลิกที่ปุ่ม "คลิกเลย"
Comments