“ฝึกงาน” เส้นทางของเจือง นศ. ICT มหิดล กับประสบการณ์ใหม่ ที่ Hyperwork 2025
- Yotsapat Hyperwork
- 11 ก.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 7 วันที่ผ่านมา
สำหรับหลายคน ช่วงปิดเทอมซัมเมอร์คือเวลาพักกายพักใจหลังจากเรียนหนักมาตลอดทั้งเทอม แต่สำหรับ "เจือง" หรือ ยศภัทร ร. นักศึกษาคณะ ICT มหาวิทยาลัยมหิดล ภาค E-Business Systems เขาเลือกที่จะใช้เวลานี้มาเรียนรู้โลกการทำงานจริง ผ่านการฝึกงานที่บริษัท Hyperwork ซึ่งเปลี่ยนมุมมอง ความเข้าใจ และเป้าหมายของเขาไปมากกว่าที่คิด
จากอุดรฯ สู่กรุงเทพฯ: เส้นทางที่เลือกด้วยใจ
เจืองเล่าว่าเขาเป็นคนอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี ซึ่งการกลับบ้านแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะระยะทางและตารางเรียนที่แน่นเอี๊ยด ทำให้ช่วงซัมเมอร์เป็นช่วงเวลาที่เขาอยากใช้พักผ่อนกับครอบครัว แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจไม่กลับบ้านในช่วงนี้ กลับมาจาก “เพื่อน” และ “คำพูดของพ่อแม่”
“เพื่อนๆ ที่เรียนมหาวิทยาลัยรัฐในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็ชวนกันไปฝึกงานครับ เลยคิดว่าเราเองก็น่าจะลองดูบ้าง อีกอย่างคือพ่อแม่ผมก็สนับสนุนเต็มที่ ท่านบอกว่า ‘ประสบการณ์แบบนี้ล้ำค่านะ พลาดแล้วพลาดเลย’ ผมเลยรู้สึกว่า เออ มันอาจจะเป็นโอกาสดีที่ไม่ได้มีมาบ่อย”
สิ่งสำคัญคือ คณะของเจือง ไม่ได้บังคับให้นักศึกษาต้องฝึกงานเพื่อให้จบการศึกษา แต่เจืองกลับเลือกเดินเข้าหาประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการพัฒนาตัวเอง
“ใจจริงผมก็อยากกลับบ้านนะครับ เพราะไม่ได้กลับบ่อยเท่าไหร่ แต่พอมองในมุมโอกาสแล้ว การได้ฝึกงานตอนนี้มันอาจให้บางอย่างที่เราไม่มีทางหาได้ในห้องเรียน”
จุดเริ่มต้นจากบูทเล็กๆ ในงาน Job Fair
"ผมเจอบริษัท Hyperwork ที่บูทงาน Job Fair ของคณะ IC ครับ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะสมัครด้วยซ้ำ แค่เดินผ่านแล้วลองเข้าไปถามเรื่องตำแหน่ง Business Analyst ดู แต่พี่ที่บูทแนะนำว่าทางบริษัทมีเปิดรับตำแหน่งฝึกงานด้าน Digital Marketing อยู่ เลยลองฟังรายละเอียดแล้วรู้สึกว่าเออเป็นตาคืออยู่"
ถึงแม้จะไม่ได้มาจากสายการตลาดโดยตรง แต่เจืองเรียนในภาค E-Business Systems ซึ่งมีพื้นฐานเรื่องธุรกิจและระบบดิจิทัลอยู่แล้ว เขาเลยมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะลองนำสิ่งที่เรียนมาใช้จริง และเปิดมุมมองใหม่ให้กับตัวเอง
"ผมรู้สึกว่าถ้าได้ลองทำอะไรที่มันใกล้เคียงกับของที่เรียน แล้วได้รู้ว่าของจริงมันทำกันยังไงก็น่าจะมีประโยชน์ต่ออนาคตครับ ดีกว่านอนเปื่อยรอเปิดเทอมแบบไม่มีจุดหมาย"
เปลี่ยนจากนักศึกษา เป็น “มือใหม่ในสนามจริง”
วันแรกของการฝึกงาน เจืองเล่าว่าไม่ได้รู้สึกกลัวหรือเกร็งเท่าไร แต่ก็มีความตื่นเต้นเพราะไม่เคยทำงานจริงมาก่อน
"ผมพร้อมทำทุกอย่างเลยครับ ขอแค่ให้ได้ลอง ได้เรียนรู้ แต่ทางบริษัทก็เลือกให้ผมดูแลงานฝึกงานด้าน Digital Marketing โดยตรง ซึ่งก็มีตั้งแต่ทำโฆษณาออนไลน์ หาตลาดใหม่ โปรโมตแบรนด์ และบางครั้งก็ไปร่วมเป็นนักแสดงในวิดีโอโฆษณาของบริษัทด้วย สนุกดีครับ"
เจืองบอกว่าแม้งานจะมีหลายด้าน และหลายอย่างเขาไม่เคยทำมาก่อน แต่พอได้ลองทำแล้วก็ไม่ยากอย่างที่คิด แค่ต้องปรับตัว เรียนรู้ และกล้าที่จะขอความช่วยเหลือเมื่อไม่เข้าใจ
"การได้ทำจริงๆ ทำให้รู้เลยครับว่าทฤษฎีที่เราเรียนในห้องกับการทำงานจริงมันต่างกันมาก อย่างตอนทำโฆษณา เราไม่ได้แค่เขียนคำโปรยเท่ๆ แต่ต้องเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า, ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล และวางแผนให้ตอบโจทย์เป้าหมายของแคมเปญด้วย"
สิ่งที่ได้มากกว่าทักษะ คือ “แนวคิดและวิธีการทำงานแบบมืออาชีพ”
หนึ่งในสิ่งที่เจืองรู้สึกประทับใจมากจากการฝึกงาน คือระบบการทำงานขององค์กรที่ชัดเจน และการที่ทุกคนในทีมพร้อมช่วยเหลือกันเสมอ
"พี่ๆ ที่นี่น่ารักมากครับ เป็นกันเองแต่ก็ยังรักษาความเป็นมืออาชีพได้ดี ไม่ว่าใครจะตำแหน่งอะไรก็ตาม เวลาเราสงสัยหรืออยากเสนออะไร ก็กล้าคุยกับเขาได้เลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกว่าเสียงของ Intern ก็มีค่านะ"
เขายังเล่าว่า ตลอดช่วงเวลาที่ฝึกงาน ไม่ใช่แค่ได้เรียนรู้เครื่องมือใหม่ๆ หรือกลยุทธ์การตลาดเท่านั้น แต่ยังได้เข้าใจว่าการทำงานจริงต้องคิดให้รอบด้าน ทั้งมุมของลูกค้า ธุรกิจ และทีมงาน
"สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จาก Hyperwork คือ mindset ในการทำงาน ไม่ใช่แค่ให้เสร็จๆ ไป แต่ต้องคิดเผื่อ ปรับแผน และสื่อสารกับทีมให้ดีด้วย ซึ่งผมเชื่อว่านี่แหละคือสิ่งที่ต่อยอดได้ตลอดชีวิต"
ใช้สิ่งที่ได้ ไปต่อยอดกับธุรกิจครอบครัวจริง
ไม่เพียงแค่ฝึกงานเพื่อเก็บประสบการณ์ เจืองยังนำสิ่งที่เรียนรู้จาก Hyperwork ไปใช้กับธุรกิจของครอบครัวของเขาในระหว่างฝึกงานด้วย
"บ้านผมทำธุรกิจครับ แล้วผมก็ช่วยดูด้านการตลาดอยู่บ้าง พอฝึกงานที่นี่ ผมเลยลองเอากลยุทธ์จาก Hyperwork ไปปรับใช้ทันที เช่น การวางแผนแคมเปญแบบมี Data, การสร้างคอนเทนต์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย หรือการวัดผลจากการยิงโฆษณาแบบละเอียด มันช่วยให้ผมเข้าใจธุรกิจของตัวเองมากขึ้นเยอะเลยครับ"
เจืองบอกว่าการได้เห็นผลลัพธ์จริงจากสิ่งที่เรียนในฝึกงาน ทำให้เขารู้สึกว่าทุกนาทีที่ใช้ไป "มันมีค่า"
มุมมองที่เปลี่ยนไป และเป้าหมายที่ชัดขึ้น
เมื่อถามว่า การฝึกงานครั้งนี้เปลี่ยนอะไรในตัวเขาบ้าง เจืองตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า “เยอะมาก”
"ผมเข้าใจการตลาดมากขึ้น เข้าใจว่าการสื่อสารกับลูกค้าไม่ใช่แค่โพสต์รูปหรือยิงแอด แต่ต้องวางแผนเป็นระบบและคิดถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ที่สำคัญมันทำให้ผมมั่นใจว่าในอนาคต ถ้าจะขยายธุรกิจของครอบครัวหรือทำธุรกิจของตัวเอง ผมจะรู้วิธีเริ่มและวางระบบที่ถูกต้องมากขึ้น"
ฝากถึงเพื่อนๆ ที่ยังลังเลเรื่องการฝึกงาน
"อยากให้ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองครับ เพราะการฝึกงานไม่ใช่แค่ทำเพื่อให้ครบชั่วโมงหรือให้ผ่านไปเท่านั้น แต่มันคือโอกาสในการเรียนรู้จากของจริง ได้เข้าใจโลกของการทำงานจริงๆ ว่าเป็นยังไง"
"แล้วที่สำคัญ คุณอาจค้นพบมุมใหม่ของตัวเอง ที่ไม่เคยเห็นตอนอยู่แค่ในห้องเรียนก็ได้ครับ"
ฝึกงานครั้งแรกของเจือง ไม่ใช่แค่บททดสอบของนักศึกษาคนหนึ่ง แต่มันคือการเดินทางที่เขาเลือกด้วยใจ ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อน และที่สำคัญคือ “เก็บประสบการณ์ล้ำค่าไว้เต็มมือ” สำหรับเส้นทางในอนาคตที่กำลังรออยู่ข้างหน้า
Комментарии