top of page

6 ข้อควรรู้ก่อนเป็น​ Manager คู่มือสำหรับผู้จัดการมือใหม่

  • รูปภาพนักเขียน: Panus Sakulsak HyperworkTH
    Panus Sakulsak HyperworkTH
  • 9 ต.ค.
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 10 ต.ค.

6 ข้อควรรู้ก่อนเป็นผู้จัดการ — คู่มือสำหรับผู้จัดการมือใหม่ พร้อมภาพผู้หญิงประชุมงานกับทีมในออฟฟิศ ใช้เป็นปกบทความการบริหารทีม/HR
6 ข้อควรรู้ก่อนเป็นผู้จัดการ

การก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการหรือ Manager เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเส้นทางอาชีพของทุกคน จากที่เคยทำงานคนเดียว และรับผิดชอบแค่ผลงานของตัวเอง ก็อาจจะต้องเจอกับความท้าทายในการบริหารคน การจัดการทีม และขับเคลื่อนองค์กรให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลายคนที่เพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งอาจจะมีความรู้สึกตื่นเต้น และกังวล เพราะบทบาทนี้ไม่ใช่แค่การมีอำนาจมากขึ้น แต่ยังมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่หนักขึ้นด้วย

หากคุณกำลังเตรียมตัวหรือพิจารณาว่าจะก้าวสู่ตำแหน่งผู้จัดการหรือไม่ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ 6 ข้อสำคัญที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นบทบาทใหม่ เพื่อให้คุณเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านทักษะและจิตใจได้อย่างเหมาะสม



1. เข้าใจบทบาทและความรับผิดชอบของ Manager จริง ๆ


หลายคนเข้าใจผิดว่าการเป็น Manager หมายถึงการมีอำนาจสั่งการหรือควบคุมคนในทีม แต่ความจริงแล้ว หน้าที่นี้ซับซ้อนกว่านั้นมาก คุณจะกลายเป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญระหว่างทีมงานกับผู้บริหารระดับสูง ต้องทำหน้าที่ถ่ายทอดวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กรให้ทีมเข้าใจและนำไปปฏิบัติได้จริง


ความรับผิดชอบของ Manager ไม่ได้จบแค่การดูแลให้งานสำเร็จตามเป้า แต่ยังรวมถึง


  • การพัฒนาศักยภาพของทีมงาน ให้แต่ละคนเติบโตและมีความสามารถมากขึ้นอย่างเหมาะสม

  • การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่เกิดขึ้นในทีมในแต่ละวัน

  • การสร้างบรรยากาศการทำงาน ที่ทำให้ทีมรู้สึกมีคุณค่า มีแรงบันดาลใจ และพร้อมพัฒนาเติบโตไปด้วยกัน

  • การบริหารทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ เวลา หรือคนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


การเข้าใจของผู้จัดการจริง ๆ จะช่วยให้คุณปรับความคาดหวังและเตรียมตัวรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดได้ดีขึ้น


2. พัฒนาทักษะการบริหารคนและจัดการทีม


หัวใจหลักของการเป็น Manager ที่ดีคือการบริหารคน ซึ่งเป็นศิลปะที่ต้องฝึกฝนและพัฒนาตลอดเวลา ทักษะที่คุณต้องเตรียมพร้อมมีหลายด้านได้แก่


  • การสื่อสารให้ชัดเจน - คุณต้องสื่อสารได้ทั้งกับทีมงานและผู้บริหาร ต้องรู้ว่าควรพูดอะไร อย่างไร เมื่อไหร่ และกับใคร การสื่อสารที่ดีจะช่วยลดความเข้าใจผิดและสร้างความไว้วางใจในทีมได้

  • การเข้าใจความแตกต่างของแต่ละคน - สมาชิกในทีมแต่ละคนมีแรงจูงใจ จุดแข็ง จุดอ่อน และวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน Manager ที่มีความเป็นผู้นำต้องรู้จักทีมงานของตัวเองอย่างดี และปรับวิธีการบริหารให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

  • การให้ Feedback ที่สร้างสรรค์ - การให้คำติชมทั้งเชิงบวกและเชิงพัฒนา จะช่วยให้ทีมงานเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชมเมื่อทำได้ดี และให้คำแนะนำอย่างสร้างสรรค์เมื่อมีสิ่งที่ต้องปรับปรุง

  • การมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ - รู้ว่างานไหนควรทำเอง งานไหนควรมอบหมาย และใครเหมาะสมกับงานอะไร การมอบหมายงานที่ดีจะช่วยพัฒนาทีม ขณะเดียวกันก็ช่วยให้คุณมีเวลาโฟกัสกับงานสำคัญได้ดียิ่งขึ้น


3. การบริหารเวลาและจัดลำดับความสำคัญ


เมื่อเป็น Manager คุณจะพบว่างานและความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นอย่างมาก มีงานเข้ามาตลอดเวลา ทั้งจากผู้บริหารที่คาดหวังผลลัพธ์ ทีมงานที่ต้องการคำแนะนำ และการประสานงานข้ามฝ่ายที่ไม่รู้จบ

การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นทักษะสำคัญที่คุณต้องมี


  • แยกแยะความเร่งด่วนและความสำคัญ - ไม่ใช่ทุกงานที่เร่งด่วนจะสำคัญ และไม่ใช่ทุกงานที่สำคัญจะเร่งด่วน เรียนรู้ที่จะจัดลำดับความสำคัญของงานที่ส่งผลต่อเป้าหมาย

  • กล้าที่จะปฏิเสธหรือมอบหมายงาน - หากมีภาระมากเกินไป ต้องเข้าใจวิธีการปฏิเสธ หรือมอบหมายงานบางอย่างให้คนอื่น เพื่อไม่ให้จมอยู่กับงานที่ไม่สำคัญ

  • วางแผนและติดตามผลอย่างเป็นระบบ - รู้จัก Tools ที่ทำให้ติดตามงานของทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถเข้าใจภาพรวม และเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาของทีมได้รวดเร็ว


การบริหารเวลาที่ดีไม่เพียงช่วยให้งานสำเร็จ แต่ยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มคุณภาพชีวิตของทีมและตัวคุณเองด้วย


4. ฝึกฝนทักษะการตัดสินใจและแก้ปัญหา

Manager ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างรวดเร็วเป็นประจำ บางครั้งคุณต้องตัดสินใจโดยมีข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือต้องเลือกระหว่างทางเลือกที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกัน

ทักษะที่จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ดี คือ


  • การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ - รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์อย่างเป็นกลาง และมองหาความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งต่างๆ

  • การคิดเชิงกลยุทธ์ - มองภาพรวมขององค์กรและทีม เข้าใจว่าการตัดสินใจแต่ละครั้งจะส่งผลกระทบอย่างไรในระยะสั้นและระยะยาว และกระทบกับใครบ้าง

  • ความกล้าตัดสินใจ - เมื่อวิเคราะห์แล้ว ต้องกล้าที่จะตัดสินใจและรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้น การลังเลหรือเลี่ยงการตัดสินใจอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้

  • ความยืดหยุ่นในการปรับแผน - เตรียมแผนสำรองและพร้อมปรับเปลี่ยนเมื่อสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้


Manager ที่เก่งคือคนที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด รวดเร็ว และยั่งยืน ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาที่หน้างานให้หายไปชั่วคราว


5. สร้างแรงจูงใจและพัฒนาทีมให้เติบโตไปด้วยกัน

ความสำเร็จของ Manager วัดได้จากความสำเร็จของทีมงาน ดังนั้นการสร้างแรงจูงใจและพัฒนาศักยภาพของทีมงานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องใส่ใจ


  • มอบหมายงานที่ท้าทายและเหมาะสม - ให้งานที่ท้าทายพอที่จะพัฒนาทักษะ แต่ไม่ยากจนเกินไป งานที่เหมาะสมจะช่วยให้ทีมงานรู้สึกมีคุณค่าจากผลงานที่เค้าทำ และเติบโตขึ้น

  • ให้การยอมรับและชื่นชม - คนทำงานต้องการการรับรู้และชื่นชมเมื่อทำดี การชมที่จริงใจจะสร้างแรงบันดาลใจให้ทำงานต่อไปได้อย่างดี

  • สร้างโอกาสในการเรียนรู้ - สนับสนุนให้ทีมงานได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ผ่านการฝึกอบรม โครงการพิเศษ หรือการทำงานที่หลากหลาย

  • ดูแลความสมดุลระหว่างชีวิตและงาน - Manager ที่ดีต้องเข้าใจว่าทีมงานมีชีวิตส่วนตัว ครอบครัว และความต้องการอื่นๆ นอกเหนือจากงาน การสนับสนุนให้มีความสมดุลจะช่วยรักษาความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานในระยะยาว

    เมื่อทีมงานเติบโต องค์กรก็เติบโต และคุณเองก็จะเติบโตไปด้วย


6. เตรียมตัวเองให้พร้อมรับมือกับความท้าทาย

บทบาท Manager มาพร้อมกับความกดดัน ความคาดหวัง และความท้าทายมากมาย คุณอาจต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ความขัดแย้งในทีม หรือการเปลี่ยนแปลงในองค์กรที่ต้องปรับตัว

การเตรียมตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีความสำคัญมาก


  • พัฒนาอารมณ์ - เรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียด ความผิดหวัง และความกดดันได้อย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยให้อารมณ์มาครอบงำการตัดสินใจ

  • เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง - ธุรกิจเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว Manager ที่ดีต้องติดตามความรู้ใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ และเทรนด์ของธุรกิจ

  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและที่ปรึกษา - มีเพื่อนร่วมงานหรือที่ปรึกษาที่สามารถให้คำแนะนำหรือแบ่งปันประสบการณ์จะช่วยให้คุณสามารถผ่านช่วงยากลำบากได้ง่ายขึ้น

  • ดูแลสุขภาพกายและใจ - อย่าลืมดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย การดูแลตัวเองให้แข็งแรงจะทำให้คุณรับมือกับงานหนักได้ดีขึ้น



การเป็น Manager คือการเดินทางของการเรียนรู้


การก้าวขึ้นมาเป็น Manager เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็เต็มไปด้วยโอกาสในการเติบโตและสร้างผลลัพธ์ต่อองค์กรและคนรอบข้าง

6 ข้อข้างต้นเป็นแค่จุดเริ่มต้น คุณจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ มากมายจากประสบการณ์จริงในการทำงาน จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจากคนที่คุณทำงานด้วย สิ่งสำคัญคือต้องเปิดใจเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และอย่าลืมว่าเป้าหมายสูงสุดของ Manager คือการทำให้ทีมและองค์กรประสบความสำเร็จไปด้วยกัน

หากคุณเตรียมตัวดี มีความมุ่งมั่น และพร้อมเรียนรู้ คุณจะสามารถเป็น Manager ที่ดีและสร้างคุณค่าในองค์กรได้อย่างแน่นอน



หากคุณกำลังมองหาบุคลากรที่เหมาะกับองค์กรของคุณติดต่อเราได้ที่



อ้างอิง


Workhuman (2023). 14 Qualities of a Good Manager in 2025. บทความที่วิเคราะห์คุณสมบัติสำคัญของผู้จัดการที่ประสบความสำเร็จ และวิธีการพัฒนาทักษะการบริหารคนและทีมในยุคปัจจุบัน. สืบค้นจาก https://www.workhuman.com/blog/qualities-of-a-good-manager/


Personnel Consultant Thailand (2024). 5 Essential Skills for New Managers in 2025. รายงานที่นำเสนอทักษะหลักที่ผู้จัดการมือใหม่ควรมีเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับบทบาทใหม่ในองค์กรยุคใหม่. สืบค้นจาก https://www.personnelconsultant.co.th/en/column/2024/12/2329/


Asana (2025). What makes a good manager? 10 qualities to lead your team well. บทความที่แนะนำคุณลักษณะและแนวทางการบริหารทีมงานให้มีประสิทธิภาพและสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน. สืบค้นจาก https://asana.com/resources/what-makes-a-good-manager


LinkedIn Learning Team (2024). The Evolving Landscape of Team Motivation in 2025. รายงานและบทความเกี่ยวกับแนวทางการสร้างแรงจูงใจและพัฒนาทีมงานอย่างทันสมัยในปี 2025. สืบค้นจาก https://www.linkedin.com/pulse/evolving-landscape-team-motivation-2025-new-era-glenn-daniels-ii-fspsc


AIHR (2025). 15 Employee Development Strategies for Your Workforce. รายงานที่รวบรวมกลยุทธ์การพัฒนาทีมงานเพื่อเสริมสร้างทักษะและเติบโตไปพร้อมกับเป้าหมายขององค์กร. สืบค้นจาก https://www.aihr.com/blog/employee-development-strategies/



ความคิดเห็น


bottom of page